แมนนี ปาเกียว ประกาศว่าจะลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
เป็นการเปิดศึกสังเวียนการแย่งชิงอีกครั้ง กับนักมวยชื่อดังอย่าง “แมนนี ปาเกียว” หรือเจ้าของฉายาว่า “เดอะแพคแมน” ซึ่งเขาก็คือนักมวยชื่อดังในประเทศฟิลลิปปินส์ ที่สามารถคว้ารางวัลชัยชนะในการต่อสู้การแข่งขันบนเวทีติดต่อกันถึง 8 รุ่น เป็นนักมวยสากลคนแรกของโลกที่ได้รับความนิยมในเรื่องการชกมวยบนเวทีสังเวียนมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นการเปิดศึกสังเวียนการแย่งชิงอีกครั้ง
แต่ไม่ใช่บนเวทีเหมือนทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ในสภาและมีหน้าที่ในการรับผิดชอบและการดูแลครั้งยิ่งใหญ่ รวมไปถึงการปกครองความเป็นอยู่ของบ้านเมืองและมนุษยชนนั่นเอง ซึ่งในการเตรียมตัวที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2565 นี้ ทางด้าน “แมนนี ปาเกียว” ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในการเป็นตัวแทนลงสมัครการเป็นประธานาธิบดีอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับและพร้อมจะทำหน้าที่ให้ได้ดีที่สุด ถ้าตัวของเขาได้รับตำแหน่งหน้าที่นี้ที่มาจากผลการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาถึงนี้นั่นเอง
หากย้อนเวลากลับไปก่อนน่านี้ หลายๆคนก็คงจะรู้จักและทราบชื่อเสียงของนักมวยชื่อดังอย่าง ‘แมนนี ปาเกียว” กันดีอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นนักมวยสากลคนแรกของโลกที่สามารถคว้ารางวัลตำแหน่งได้ติดต่อกันถึง 8 รุ่น เขามีอายุในตอนนี้ 42 ปี ซึ่งหลายๆคนก็คงจะมองว่าเขาเป็นคนเก่งอย่าบงมากในเรื่องการกีฬาที่ใช้กำลังแข็งแกร่งแบบนี้ แต่ตอนนี้เป็นการกลับมาของเขาที่จะเป็นการเปิดศึกสังเวียนอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่ได้มาทำหน้าที่ในการต่อสู้แต่จะเป็นการทำหน้าที่ในการเป็นตัวแทนการลงสมัครเป้นประธานาธิบดี
ซึ่งทางกลุ่มพรรค PDP – Laban ก็ได้เสนอชื่อให้ “แมนนี ปาเกียว” ได้ลงสมัครในครั้งนี้ ที่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในปี 2565 ซึ่งหลายๆคนก็ต่างผลักดันและสนับสนุนตัวเขากันเป็นจำนวนมาก เพราะทางด้าน “แมนนี ปาเกียว” เคยได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง สส. ปี 2010 – 2016 มาแล้วอีกด้วย จึงมองเห็นความสามารถของ “แมนนี ปาเกียว” และได้เสนอชื่อในการแข่งขันครั้งนี้นั่นเอง
โดยทางเจ้าตัวอย่าง “แมนนี ปาเกียว” ก็ได้ออกมาพูดไว้ว่า ถ้าเขาได้รับตำแหน่งและชนะการเป็นประธานาธิบดีในครั้งนี้จริงๆ เขาก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข และจะรับผิดชอบดูแลปกครองบ้านเมืองให้เป้นไปตามแนวทางที่ดีที่ได้วางไว้ และเขามีความตั้งใจไว้ว่าจะเดินทางเข้าสู่การเมืองอย่างจริงจัง พร้อมจะทำหน้าที่ด้วยความสามารถที่ตนเองมีให้ได้ประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดนั่นเอง ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องรอติดตามและเอาใจช่วยอย่างมากจริงๆ ว่าเขาจะได้ทำตามความต้องการของตัวเองหรือไม่