วิกฤติ แพงทั้งแผ่นดิน รุมถล่ม รัฐบาลบิ๊กตู่ หนักหน่วง
ตลอดปี 2021 ที่ผ่านมา นับว่าราคาสินค้าหลากหลายชนิดปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทั่วประเทศอยู่เหมือนกัน แต่หลายๆ คนอาจจะไม่คิดมาก่อนว่าราคาสินค้าชนิดต่างๆ จะพุ่งทะยานรับปี 2022 แบบแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เพราะนับแต่ต้นเดือนมกราคมราคาของเนื้อหมูปรับสูงขึ้นจนน่าตกใจ กระทั่งทำให้สินค้าชนิดอื่นๆ จำเป็นต้องขยับราคาตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นราคาไก่ หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่นก็ตาม ที่สำคัญราคาข้าวของอีกมากมายยังประกาศขยับราคาขึ้นไปด้วย จนบรรดาเหล่าผู้บริโภคทั้งหลายแทบจะชักหน้าไม่ถึงหลังกันอยู่แล้ว
จากวิกฤติ “แพงทั้งแผ่นดิน” ในยุค 2022 ขอบอกเลยว่าถูกนำมาถกกลายเป็นประเด็นใหญ่เรียบร้อยแล้ว ประชาชนจำนวนไม่น้อยมองว่าวิกฤติดังกล่าวเป็นผลมาจากการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาลบิ๊กตู่ จึงพยายามส่งเสียงเข้าไปยังรัฐบาลตลอดเวลา พร้อมกับเดินหน้ากดดันให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงด้วยความเร่งด่วน ขณะที่พรรคฝ่ายค้านใหญ่ๆ นำโดยพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ไม่รอช้าแต่อย่างใด ซัดการทำงานของรัฐบาลประยุทธทันที และบอกให้รัฐบาลประยุทธแก้ปัญหาด้วยความเร่งด่วน เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนทั่วประเทศ
ต้องยอมรับว่าผลจากวิกฤติแพงทั้งแผ่นดิน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลภายใต้การนำของ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หนักหน่วงพอสมควรเลยทีเดียว หลายต่อหลายคนรุมถล่มจากการแก้ปัญหาอันล่าช้า จนส่งผลกระทบขยายวงกว้างมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แบบไม่หยุดยั้ง กระทั่งค่าครองชีพขยับขึ้นไปจนน่าใจหาย ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำยังคงย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วน “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกโจมตีรุนแรงเช่นเดียวกัน เพราะไม่สามารถควบคุมราคาสินค้าชนิดต่างๆ ให้อยู่บนระดับความเหมาะสมเอาไว้ได้ จึงต้องรอดูกันต่อไปอีกสักระยะนึงว่าทางพรรคร่วมรัฐบาลจะสามารถจับมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้สำเร็จหรือไม่
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าวิกฤติแพงทั้งแผ่นดินในช่วงปี 2022 ต้องส่งผลกระทบต่อรัฐบาลอย่างสาหัสเลยทีเดียว หากไม่ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วทันใจ น่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเหมือนกัน ซึ่งอาจจะสะเทือนไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ นอกเหนือไปจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ด้วย แถมบรรดาเหล่าพรรคฝ่ายค้านต่างๆ คงไม่ปล่อยผ่านประเด็นดังกล่าวไปง่ายๆ อย่างแน่นอน เพราะถือว่าเป็นช่องโหว่ของรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งคงจะสามารถดึงคะแนนความนิยมกลับคืนมาได้อีกจำนวนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามหากทางรัฐบาลชุดปัจจุบันสามารถเดินหน้าแก้ปัญหาสินค้าแพงได้สำเร็จลุล่วงภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ผู้สนับสนุนคงจะให้ความเชื่อมั่นต่อไป จึงต้องมารอดูว่าทางรัฐบาลจะดำเนินการได้รวดเร็วมากน้อยแค่ไหนกันแน่