พนักงานขับรถบรรทุกรวมพลัง จี้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน
จากสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อเติบโตอย่างมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วโลกต่างมีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้อำนาจการจับจ่ายใช้สอยถูกลิดรอน หนึ่งในสินค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างมากคือราคาน้ำมัน ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าต้นน้ำของการผลิตต่าง ๆ รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันที่ลำบากมากยิ่งขึ้น ประชาชนบางกลุ่มจึงไม่พอใจรวมพลังเข้ามาแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องแก่รัฐบาลในการอออกมาตรการเยียวยาต่างๆ ให้
โดยประชาชนกลุ่มแรกที่ออกมาแสดงข้อเรียกร้องจากรัฐบาลในช่วงนี้ คือกลุ่มผู้ใช้รถบรรทุกที่รวมตัวกันเป็นขบวน “ ม็อบรถบบรทุก” มุ่งหน้าเส้นบางนา-ตราด ตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ถนนเส้นนั้นได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการเดินทางสัญจรก็เป็นไปด้วยความลำบาก หลังจากเคลื่อนขวนแล้วทางม็อบรถบรรทุกจอดที่ช่วงทางแยกตัดกับถนนกิ่งแก้ว ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อปราศรัยและอ่านข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลในการช่วงตึงเพดานราคาน้ำมันดีเซล เพราะทางผู้ขับรถบรรทุกมองว่ามีโอกาสที่จะประกาศปรับราคาขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่อง จึงออกมาเรียกร้องเสียก่อน
หลังจากมีข่าวม็อบรถบรรทุกออกไปสู่สาธารณะก็ได้มีกลุ่มรถบรรทุกในภูมิภาคอื่นเห็นด้วยและออกมาแสดงพลังในชื่อ Truck Power รวมทั้งหมด 7 จุด ใน 6 เส้นทางทั่วประเทศไทยครอบคลุมในทุกภูมิภาค ซึ่งทางด้านตำรวจทางหลวงและตำรวจจราจรก็มีการสั่งการด่วนในการเข้ากำกับดูแลเส้นทางดังกล่าวเพื่อป้องกันปัญหาบานปลายและอำนวยความสะดวกผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น ๆ
โดยใจความสำคัญของการเรียกร้องครั้งนี้ คือการให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักของรถบบรรทุก ให้อยู่ที่ราคาไม่เกิน 25 บาท/ลิตร โดยราคาในปัจจุบันใกล้จะแตะ30บาท/ลิตรแล้ว และจากสถานการณ์ในปัจจุบันรัฐบาลประกาศปรับราคาน้ำมันขึ้น 60 สต. ในทุกๆ2วัน ถ้าปล่อยวันนานกว่านี้อาจจะเห็นราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท/ลิตร ในสัปดาห์นี้แน่นอน และด้วยสภาวะน้ำท่วมรวมไปถึงโรคระบาดต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมซบเซา และส่งผลกระทบต่องานขนส่งซึ่งถือว่าพึ่งพาอาศัยกันอยู่ และเมื่อรายได้ลดลงแต่สภาวะค่าใช้จ่ายไม่ลดลงตาม จึงเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนให้ผู้ได้รับผลกระทบอย่างกลุ่มม็อบรถบรรทุกไม่อาจนิ่งนอนใจ ออกมาขอความเห็นใจจากรัฐบาล
ซึ่ง ณตอนนี้ รัฐบาลรับทราบข้อเรียกร้องแล้ว จะนำเข้าหารือร่วมกับคณะทำงานอีกครั้ง นำโดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพราะประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันจึงไม่มีอำนาจในการควบคุมราคาต้นทุนมากนัก เพราะในปัจุบันราคาน้ำมันโลกก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปริมาณน้ำมันคงเหลือที่ลดน้อยลง