ประชาชนวอนรัฐเร่งช่วยเหลือ กระทบร้าน บาร์
สถานการณ์โควิดยังคงทวีความรุนแรง แม้จะมีการฉีดวัคซีนไปกว่า 11,058,390 โดส แต่ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตก็ยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลกระทบต่อร้านค้ารายย่อย ร้านอาหาร และร้านเหล้า รวมถึงสถานบันเทิงต่าง ๆ ต้องสูญเสียรายได้ อีกทั้งรัฐบาลยังมีมาตรการการความคุมการแพร่ระบาดที่เคร่งครัด จนเจ้าของกิจการ และประชาชนต่างออกมาเร่งขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลใช้ช่วยเยียวยา เพื่อประคองพนักงาน ร้านและกิจการต่อไป
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา จากการระบาดของโควิดระลอก 3 นี้ ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านเหล้า บาร์ และสถานบันเทิงชื่อดังต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร ต้องทยอยปิดตัวลง เพราะพิษโควิดระลอกนี้รุนแรงเกินกว่าจะรับไหว เช่น ร้าน Bo.Lan ร้านอาหารไทย, Funky Lam ร้านอาหารฟิวชั่น, Soul Food Mahanakorn ร้านอาหารไทย, Sugar Ray Apartment ร้านเหล้า บาร์ และเครื่องดื่ม, Konkord ค็อกเทลบาร์ และอีกหลาย ๆ ร้านทั้งในพื้นที่เสียง และต่างจังหวัด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนมาตรการรับมือโรคระบาดของรัฐบาลไทยที่มองข้ามความเดือดร้อนของกลุ่มผู้ประกอบการ ทั้งยังไม่มีมาตรการเยียวยาและสนับสนุนภาคธุรกิจเหมือนกับหลาย ๆ ประเทศ จนประชาชนบางส่วนต้องออกมาช่วยเหลือกันเองตามกำลังที่มี
ทั้งนี้ หากร้านอาหาร ร้านเหล้า บาร์ และสถานบันเทิงจำนวนมากต้องปิดตัวลงไปในช่วงการระบาดของโควิด-19 การปิดร้านไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแค่เจ้าของร้าน และพนักงานของร้านเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันอีกด้วย เช่น วัตถุดิบ ขนส่ง รวมถึงบริการสนับสนุนร้านอาหาร อย่างบริการทำความสะอาด ฉีดพ่นยา ซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ในร้านอาหารด้วย
ล่าสุด ในช่วงที่ผ่านมาโลกออนไลน์ได้ผุดแคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม โดยร้านอาหารแห่งหนึ่งเรียกร้องให้ผู้ประกอบการร้านอาหารอื่น ๆ ออกมาแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการที่รัฐบาลเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ที่ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 27 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา สาระสำคัญคือ ปิดแคมป์คนงานก่อสร้างใน กทม.-ปริมณฑล อย่างน้อย 30 วัน รวมทั้งให้ร้านอาหารบริการแบบ Take Home เท่านั้น ทำให้บรรดาผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร ได้รับผลกระทบอีกครั้ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และแคมเปญดังกล่าว ซึ่งมีผู้ประกอบการร่วมลงนามไปแล้วเกือบ 1,000 ราย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ได้กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสการโพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ประกาศเชิญชวนร้านอาหารร่วมแสดงอารยะขัดขืน #กูจะเปิดมึงจะทำไม โดยเตือนว่าจะมีความผิดตาม พรก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พร้อมทั้งเตือนประชาชน ร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆที่มีผู้ชักชวนให้ทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดโดยผิดกฎหมายนั้นขออย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะท่านอาจจะถูกหลอกลวงให้ซื้อวัตถุดิบหรือสินค้ามาเตรียมไว้ แล้วไม่สามารถเปิดร้านขายได้ ทำให้ขาดทุนและได้รับความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย กล่าว