นาวิกโยธินสหรัฐฯ บาดเจ็บ 7ราย หลังเครื่องบินรบประสบอุบัติเหตุ
หากจะกล่าวถึงประเด็นอุบัติเหตุครั้งสำคัญระดับโลกในตอนนี้ คิดว่าสื่อใหญ่หลายๆ สำนัก คงหันมาให้ความสนใจกับข่าวนาวิกโยธินสหรัฐฯ จำนวน 7 ราย ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเป็นการเกิดอุบัติเหตุโดยเครื่องบินขับไล่เอฟ-35ซี ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประสบอุบัติเหตุขณะกำลังลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินภายในทะเลจีนใต้ จนมีนาวิกโยธินบาดเจ็บเป็นจำนวนหลายรายเลยทีเดียว ทำเอาคนจำนวนไม่น้อยมีความวิตกกังวล พร้อมกับแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจเข้ามาอย่างเหนียวแน่นล้นหลาม ตั้งความหวังว่านาวิกโยธินทั้ง 7 ราย จะกลับมาหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว
หลังจากประเด็นดังกล่าวถูกสำนักข่าวใหญ่ๆ ทั่วโลก หยิบยกมานำเสนอลงในหลากหลายแพลตฟอร์ม จึงเป็นธรรมดาหากทุกคนจะหันมาให้ความสนใจเยอะเป็นพิเศษ ยิ่งเหตุการณ์ที่กล่าวมาเกิดขึ้นบนเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ ด้วยแล้ว จึงเป็นอีกประเด็นนึงที่ทั่วโลกจับตามอง ที่สำคัญคือมีนาวิกโยธินกว่า 7 ราย ประสบอุบัติเหตุครั้งนั้นด้วย คนส่วนใหญ่จึงมีความเป็นห่วงเป็นใย ประชาชนแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาคอมเมนต์ส่งกำลังใจเข้ามาแบบรัวๆ เพื่อต้องการให้นาวิกโยธินมีแรงผลักดันในการทำงานรับใช้ประเทศชาติต่อไป
เมื่อทุกๆ คนจับตามองประเด็นอุบัติเหตุเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ กันขนาดนี้ จึงมีความจำเป็นที่กองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ จะต้องออกมาแถลงการณ์ถึงความเป็นมาเป็นไปกันสักหน่อย ระบุว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินรบล่องหนเอฟ-35ซี มีความต้องการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส คาร์ล วินสัน เบื้องต้นมีรายงานเกี่ยวกับนักบินที่ดีดตัวออกจากเครื่องบินแล้ว โดยเขาถูกให้ความช่วยเหลือจากทางเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งล่าสุดเขายังคงมีอาการคงที่ ขณะที่อาการอื่นๆ ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เชื่อว่าหากมีความคืบหน้าทางด้านการรักษาออกมาแล้ว คงจะมีรายงานออกมาอีกครั้งในอนาคตแน่นอน แต่ค่อนข้างมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะหายจากอาการบาดเจ็บในอีกไม่ช้า
แต่นอกเหนือจากตัวนักบินจะบาดเจ็บแล้ว ทราบมาว่ามีลูกเรือกว่า 7 ราย ประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บด้วยเหมือนกัน โดยมีนาวิกโยธินจำนวน 3 รายถูกนำตัวส่งไปรักษายังสถานพยาบาลภายในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งทั้งหมดยังคงมีอาการคงที่เช่นเดียวกัน ส่วนนาวิกโยธินอีก 4 ราย ได้รับการรักษาบนเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส คาร์ล วินสัน และถูกปล่อยให้กลับไปดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติเรียบร้อยแล้ว เอาเป็นว่าแม้ทุกคนจะรอดปลอดภัยดี แต่คงจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของทหารสหรัฐฯ คาดว่าในอนาคตคงจะมีการหาแนวทางป้องกันแก้ไข เพราะคงไม่มีใครอยากเห็นอุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเป็นแน่