ญี่ปุ่นสังเบรกฉีดวัคซีน โมเดอร์นา หลังพบสิ่งปนเปื้อน
จากสถานการณ์โควิด-19ที่ระบาดในเกือบทุกมุมโลกเป็นระยะเวลากว่า2ปี ดูท่าจะไม่คลี่คลายลงง่ายๆ จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในทุกวันปัจจุบันสูงถึง 216 ล้านคน และ จำนวนผู้เสียชีวิต เกือบ 5ล้านคนทั่วโลก แต่ละประเทศจึงมีทางเลือกเดียวในการป้องการความรุนแรงนั่นคือ การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้เร็วที่สุด
ส่วนสาเหตุของการปนเปื้อนครั้งนี้ทางผู้ผลิตวัคซีนโมเดอร์นาให้กับญี่ปุ่นระบุว่า อาจเกิดจากการปนเปื้อนจากภาชนะบรรจุซึ่งผลิตในบริษัท โรวี ที่สเปน โดยโรงงานนี้จะทำหน้าที่ผลิตขวดสำหรับวัคซีนโมเดอร์นา ที่จะออกจำหน่ายนอกสหรัฐ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์สรุปสาเหตุนี้อย่างชัดเจน เพราะต้องการที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ถึงแม้หลายๆฝ่าย อยากจะต้องการเร่งฉีดมากเท่าไหร่ บางครั้งอาจจะมีเหตุที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักของการฉีดได้ ตัวอย่างอย่างในประเทศญี่ปุ่นที่ประสบมาล่าสุด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวชื่อดังในญี่ปุ่นอย่าง NHK ได้ระบุว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขทางประเทศญี่ปุ่น ตรวจพบสารปนเปื้อนที่ใช้ฉีดให้กับประชาชน เมื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า สารที่ปนเปื้อนใน วัคซีนโมเดอร์นา นั้นคือ อนุภาคโลหะ เพราะอนุภาคที่ตรวจพบนั้นสามารถทำปฏิกิริยากับแม่เหล็กได้
ถึงแม้ว่าทางบริษัท โมเดอร์นา – อิงค์ ผู้ผลิตวัคซีนล็อตดังกล่าว จะออกมาชี้แจงต่อเหตุการ์ที่เกิดขึ้นว่า อนุภาคโลหะที่ปนเปื้อนนั้น ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือแม้กระทั่งความปลอดภัยหลังฉีดไปแล้ว แต่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นไม่นิ่งนอนใจ สั่งเบรกกการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ล็อตดังกล่าว จำนวน 1.63 ล้านโดสนี้ไปก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนที่มาฉีดวัคซีนหลังจากนี้
แต่ก็มีการพบว่าวัคซีนล็อตนี้ได้ทำการฉีดให้กับประชาชนไปแล้วมากกว่า 176,000 โดสโดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นออกมาฉีดวัคซีนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด อาจทำให้กำหนดการณ์เดิมที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นวางเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้ 60 % ในเดือนกันยายนนี้อาจจะล่าช้าไปกว่าที่คาดไว้
ทางด้านความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ของวัคซีนโมเดอร์นา ที่ล่าสุดเตรียมยื่นเรื่องขออนุมัติการใช้อย่างเต็มรูปแบบกับคณะกรรมการอาหารและยาหรือเอฟดีเอ (FDA) ของสหรัฐฯ แล้ว เพื่อต้องการคลายเงื่อนไขการอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินก่อนหน้านี้ ซึ่งหากปลดล็อคสำเร็จนั้น จะทำให้โมเดอร์นาสามารถเจรจา ซื้อขายให้กับภาคเอกชนในแต่ละประเทศได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านรัฐต่อรัฐ เพื่อเป็นการเร่งกระจายวัคซีนให้ถึงประชาชนได้โดยเร็ว ซึ่ง ณ ตอนนี้มีเพียงไฟเซอร์เท่านั้น ที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติเสร็จสิ้นไปแล้ว ส่วนทางโมเดอร์นาอยู่ในขั้นตอน จัดทำผลการศึกษาประสิทธิภาพขั้นสุดท้ายเพื่อนำเสนอ ซึ่งวัคซีนโมเดอร์นาถือเป็นหนึ่งในวัคซีนทางเลือกที่ทางคนไทยส่วนใหญ่ทำการสั่งจองเพื่อเป็นการบูสเตอร์ ทำให้ข่าวนี้ก็อาจจะเป็นข่าวดีที่ทางไทยให้การติดตามมากเช่นกัน